ต้มแซ่บ

“ ต้มแซ่บ ” เมนูอาหารอีสานสุดแซ่บ อร่อยแถมทำง่ายอีกด้วย

ต้มแซ่บ เป็นอาหารพื้นเมือง ของ ภาคอีสาน มีลักษณะ เป็นซุปน้ำใส รสชาติเผ็ดจัดจ้าน หอมกลิ่นสมุนไพร นิยมรับประทานเป็นกับข้าว หรือ กับแกล้มก็ได้

ต้มแซบหมู มีต้นกำเนิดมาจาก แกงอ่อมของชาวอีสาน โดยนำแกงอ่อมมาปรับรสชาติให้เผ็ดจัดจ้านขึ้น ใส่พริกแห้ง และ ข้าวคั่วลงไปด้วย เพื่อให้มีกลิ่นหอม และ รสชาติเข้มข้นมากยิ่งขึ้น ต้มแซ่บจึงเป็นอาหารอีสาน ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ในปัจจุบัน

ต้มแซ่บ คืออะไร?

ต้มแซบ เป็น อาหารอีสาน ประเภทต้มยำชนิดหนึ่ง คล้ายคลึงกับต้มยำ ของภาคกลางแต่ใส่พริกแห้ง และ ข้าวคั่วลงไปด้วย ส่วนประกอบหลัก คือ เนื้อสัตว์ ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด พริกทั้งสด และ แห้ง มะนาว น้ำปลา นิยมใช้เนื้อหมู เนื้อวัว มากกว่าเนื้อสัตว์ชนิดอื่น แต่ที่นิยมกันมากคือ ต้มแซ่บกระดูกอ่อนหมู หรือ ต้มแซ่บซี่โครงหมู โรยหน้าด้วยต้นหอม ผักชีฝรั่ง โหระพา

สันนิษฐานว่า สูตรต้มแซ่บ คงเพิ่งเกิดขึ้นใหม่ จากการดัดแปลงแกงอ่อมของภาคอีสาน

ต้มแซ่บคล้ายกับต้มส้ม โดยต้มส้มได้ความเปรี้ยวมาจากผักที่มีรสเปรี้ยวเป็นตัวนำมากกว่า เช่น ยอดมะขาม ตะลิงปลิง หรือดอกกระเจี๊ยบสด ตามด้วยเนื้อสัตว์ตามชอบ ส่วนใหญ่ที่เห็นกันจะนิยมเป็นพวกเนื้อปลา หรือ ไก่บ้าน รสชาติของต้มแซ่บจะไม่เปรี้ยวมากเมื่อเทียบกับ ต้มส้ม โดยต้มแซ่บจะมีรสชาติกลมกล่อมกว่า ต้มแซ่บกระดูกหมูอ่อน ยังคล้ายกับต้มโคล้ง โดยต้มโคล้งนิยมใช้ปลากรอบหรือปลาแห้ง มีการใส่น้ำมะขามเปียก แต่ไม่ใส่ข้าวคั่ว

ส่วนผสมของ ต้มแซ่บ

ส่วนผสมของต้มแซ่บ 

  1. กระดูกหมูอ่อน 1 กิโลกรัม
  2. หอมแดง 10 หัว
  3. ตะไคร้ 5 ต้น
  4. ขาอ่อนหั่นแว่น 5 ชิ้น
  5. ใบมะกรูดฉีก 5 ใบ
  6. รากผักชี 5 ราก
  7. มะขามเปียก 1 ฝัก
  8. พริกสด 10 เม็ด
  9. พริกแห้งทอด 8 เม็ด
  10. พริกป่น 1 ช้อนโต๊ะ
  11. ข้าวคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ
  12. ต้มหอมผักชีซอย 1 ถ้วย
  13. ผักชีฝรั่ง 1 ถ้วย
  14. น้ำปลาแท้ 1 ทัพพีครึ่ง
  15. น้ำมะนาว 1 ทัพพี
  16. น้ำเปล่า 1.5 ลิตร

วิธีทำต้มแซ่บ

วิธีทำต้มแซ่บ 

  1. นำน้ำมาต้มในหม้อให้เดือด จากนั้นใส่มะขามเปียก รากผักชี ข่า ตะไคร้ (ครึ่งแรก) หอมแดง ใบมะกรูด (ครึ่งแรก) พริกสด ต้มให้เดือกสักพัก
  2. ใส่กระดูกหมูอ่อน ลงไปในหม้อ แล้วตั้งไฟกลาง ตุ๋นประมาณ 30 – 40 นาที คอยช้อนฟองไขมันออก เพื่อให้น้ำซุปใส
  3. เมื่อครบเวลา ให้ตักมะขามเปียกที่ ปรุงต้มแซ่บ ออก แล้วใส่ตะไคร้ และ ใบมะกรูดส่วนที่เหลือลงไป
  4. ปิดไฟแล้วเตรียมปรุงรส ด้วยน้ำปลา ตามด้วยข้าวคั่ว พริกป่น ต้นหอม-ผักชีซอย ผักชีฝรั่ง พรอกทอด และ ปิดท้ายด้วยน้ำมะนาว
  5. ชิมรสชาติตามชอบ พร้อมเสิร์ฟ
ต้มแซ่บ

เคล็ดลับในการทำ ต้มแซ่บ ให้อร่อย

  • เลือกกระดูกอ่อนหมูที่มีเนื้อติดกระดูกอ่อนเยอะ จะทำให้ ต้มแซ่บหมู มีรสชาติกลมกล่อม
  • ต้มน้ำซุปจนกระดูกอ่อนเปื่อยได้ที่ จะทำให้ต้มแซ่บมีรสชาติเข้มข้น
  • ใส่พริกสดให้พอดี จะได้รสชาติเผ็ดร้อนกำลังดี
  • ปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียก น้ำปลา และเกลือ ให้พอดี จะได้รสชาติกลมกล่อม

นอกจาก ต้มแซ่บกระดูกหมู แล้ว ต้มแซ่บยังสามารถใส่เนื้อสัตว์อื่น ๆ ได้ตามชอบ เช่น ต้มแซ่บไก่  ปลา กุ้ง ต้มแซ่บเครื่องในหมู เป็นต้น นอกจากนี้ยังสามารถใส่ผักอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ เช่น มะเขือเทศ ผักชีฝรั่ง ต้นหอม เป็นต้น

ติดตามข่าวสารได้ที่ : https://localfoodthai.com

อ่านบมความเพิ่มเติมได้ที่ : “ก้อยไข่มดแดง“เมนูอาหารอีสานจานเด็ด อร่อยแซ่บถึงทรวง