10 เมนู อาหารพื้นบ้านภาคเหนือ อาหารท้องถิ่น ยอดฮิตที่ทุกท่านไม่ควรพลาด

อาหารพื้นบ้านภาคเหนือ

อาหารพื้นบ้านภาคเหนือ เป็นอาหารที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว สะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของชาวเหนือ เมนูอาหารเหนือ ส่วนใหญ่มีรสจัดจ้าน เผ็ดร้อน และใช้เครื่องเทศและสมุนไพรท้องถิ่นเป็นส่วนประกอบ อาหารภาคเหนือ ที่มีชื่อเสียง

1. น้ำพริกตาแดง

น้ำพริกตาแดง เป็นน้ำพริกพื้นบ้านของภาคเหนือที่มีประวัติความเป็นมายาวนาน สันนิษฐานว่าเกิดขึ้นตั้งแต่สมัยโบราณ โดยคาดว่ามีที่มาจากการนำพริกแห้ง หอมแดง และกระเทียม มาตำรวมกันเพื่อใช้เป็นน้ำพริกสำหรับรับประทานกับข้าวเหนียว หรือนำไปประกอบอาหารอื่นๆ เช่น แกงผัก แกงหอย เป็นต้น

ในอดีต น้ำพริกตาแดงเป็นอาหารที่ทำง่าย เก็บไว้ได้นาน จึงนิยมเป็นอาหารที่พกพาสำหรับเดินทางหรือทำเป็นเสบียงอาหารสำหรับไปทำงานในป่า ด้วยความที่น้ำพริกตาแดงมีรสชาติเข้มข้น เผ็ดร้อน จึงช่วยเพิ่มความกระปรี้กระเปร่าให้กับผู้รับประทาน

ในปัจจุบัน น้ำพริกตาแดงเป็น อาหารพื้นบ้านภาคเหนือ ที่ได้รับความนิยมแพร่หลายไปทั่วประเทศ นิยมรับประทานคู่กับข้าวเหนียวหรือแคบหมู ผักสดต่างๆ เช่น ผักกาดหอม แตงกวา ถั่วฝักยาว

ที่มาของชื่อ “น้ำพริกตาแดง” นั้น สันนิษฐานว่ามาจากการที่ผู้รับประทานน้ำพริกตาแดงแล้วอาจมีอาการตาแดง เนื่องจากพริกแห้งที่ใช้ในการทำน้ำพริกตาแดงมีรสเผ็ดร้อนมาก

ดูสูตรอาหาร : น้ำพริกตาแดง

2. ไส้อั่ว

อาหารพื้นบ้านภาคเหนือ

ไส้อั่ว เป็น อาหารพื้นบ้านภาคเหนือ ของประเทศไทย อั่ว หมายถึง แทรก ยัด หรือกรอกเครื่องปรุงใส่เข้าไปในในลำไส้ การทำไส้อั่วจึงหมายถึงไส้ที่เอาเนื้อสัตว์ไปยัดไว้

ประวัติที่มาของไส้อั่ว สันนิษฐานว่าเกิดขึ้นตั้งแต่สมัยโบราณ โดยคาดว่ามีที่มาจากการนำเนื้อสัตว์มาบดผสมกับเครื่องเทศและสมุนไพร แล้วยัดใส่ในไส้หมูเพื่อถนอมอาหารไม่ให้เน่าเสีย โดยในสมัยโบราณนั้น การเลี้ยงหมูเป็นที่นิยมมาก เนื่องจากหมูเป็นสัตว์ที่เลี้ยงง่าย หาอาหารได้สะดวก และสามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลาย ในอดีต ไส้อั่วเป็นอาหารที่ทำง่าย เก็บไว้ได้นาน จึงนิยมเป็นอาหารที่พกพาสำหรับเดินทางหรือทำเป็นเสบียงอาหารสำหรับไปทำงานในป่า ด้วยความที่ไส้อั่วมีรสชาติเข้มข้น เผ็ดร้อน จึงช่วยเพิ่มความกระปรี้กระเปร่าให้กับผู้รับประทาน

ในปัจจุบัน ไส้อั่วเป็นอาหารพื้นบ้านที่ได้รับความนิยมแพร่หลายไปทั่วประเทศ นิยมรับประทานคู่กับข้าวเหนียวหรือแคบหมู ผักสดต่างๆ เช่น ผักกาดหอม แตงกวา ถั่วฝักยาว

ดูสูตรอาหาร : ไส้อั่ว

3. จอผักกาด

อาหารพื้นบ้านภาคเหนือ

จอผักกาด เป็น อาหารพื้นบ้านภาคเหนือ ของประเทศไทย คำว่า “จอ” ในภาษาเหนือหมายถึง “ต้มผัก” ส่วน “ผักกาด” หมายถึง ผักกวางตุ้ง โดยมักใช้ผักกาดกวางตุ้งสดใหม่ที่กำลังออกดอกมาทำการต้มพร้อมกับหมูสามชั้นหรือกระดูกหมูจะได้รสชาติของน้ำซุปที่เข้มข้น

ประวัติที่มาของจอผักกาด สันนิษฐานว่าเกิดขึ้นตั้งแต่สมัยโบราณ โดยคาดว่ามีที่มาจากการนำผักกวางตุ้งมาต้มกับน้ำเปล่าหรือน้ำซุปกระดูกหมู เพื่อรับประทานเป็นอาหารในช่วงฤดูหนาว เนื่องจากผักกวางตุ้งเป็นผักที่หาได้ง่ายและเติบโตได้ดีในฤดูหนาว

ในอดีต จอผักกาดเป็นอาหารที่ทำง่าย เก็บไว้ได้นาน จึงนิยมเป็นอาหารที่พกพาสำหรับเดินทางหรือทำเป็นเสบียงอาหารสำหรับไปทำงานในป่า ด้วยความที่จอผักกาดมีรสชาติเข้มข้น เผ็ดร้อน จึงช่วยเพิ่มความกระปรี้กระเปร่าให้กับผู้รับประทาน

ในปัจจุบัน จอผักกาดเป็นอาหารพื้นบ้านที่ได้รับความนิยมแพร่หลายไปทั่วประเทศ นิยมรับประทานคู่กับข้าวเหนียวหรือแคบหมู ผักสดต่างๆ เช่น ผักกาดหอม แตงกวา ถั่วฝักยาว

ดูสูตรอาหาร : จอผักกาด

4. ข้าวซอย

อาหารพื้นบ้านภาคเหนือ

ข้าวซอย เป็น อาหารพื้นบ้านภาคเหนือ ของประเทศไทย มีลักษณะคล้ายก๋วยเตี๋ยว รับประทานคู่กับเส้นข้าวซอย น้ำแกงกะทิ ไก่หรือเนื้อ และเครื่องเคียงต่างๆ เช่น หอมแดงซอย พริกป่นผัดน้ำมัน ถั่วลิสงคั่ว ผักกาดหอม แตงกวา

ประวัติที่มาของข้าวซอย สันนิษฐานว่าเกิดขึ้นตั้งแต่สมัยโบราณ โดยคาดว่ามีที่มาจากการนำบะหมี่จีนมารับประทานกับน้ำแกงกะทิและเครื่องเทศ ซึ่งได้รับอิทธิพลจากชาวจีนฮ่อหรือชาวจีนที่นับถือศาสนาอิสลาม ที่อพยพมาตั้งถิ่นฐานในภาคเหนือของประเทศไทย

ในอดีต ข้าวซอยเป็นอาหารที่ทำง่าย เก็บไว้ได้นาน จึงนิยมเป็นอาหารที่พกพาสำหรับเดินทางหรือทำเป็นเสบียงอาหารสำหรับไปทำงานในป่า ด้วยความที่ข้าวซอยมีรสชาติเข้มข้น เผ็ดร้อน จึงช่วยเพิ่มความกระปรี้กระเปร่าให้กับผู้รับประทาน

ในปัจจุบัน ข้าวซอยเป็นอาหารพื้นบ้านที่ได้รับความนิยมแพร่หลายไปทั่วประเทศ นิยมรับประทานคู่กับข้าวเหนียวหรือข้าวสวย

ที่มาของชื่อ “ข้าวซอย” นั้น สันนิษฐานว่ามาจากกรรมวิธีในการทำเส้นข้าวซอยในสมัยโบราณที่ยังไม่มีเครื่องจักรในการผลิตเส้นบะหมี่ที่ใช้ทำข้าวซอย จึงใช้การทำเส้นสด โดยนำแป้งข้าวสาลี ไข่ เกลือ น้ำ มาผสมกันแล้วนวด จนเข้ากันดี แล้วกดรีดให้เป็นแผ่น แล้วเอามีดมาซอยแผ่นแป้งให้เป็นเส้น จึงเรียกว่า “ข้าวซอย” นั่นเอง

ดูสูตรอาหาร : ข้าวซอย

5. น้ำพริกอ่อง

อาหารพื้นบ้านภาคเหนือ

น้ำพริกอ่อง เป็นน้ำพริก อาหารพื้นบ้าน ของภาคเหนือของประเทศไทย มีประวัติความเป็นมายาวนาน สันนิษฐานว่าเกิดขึ้นตั้งแต่สมัยโบราณ โดยคาดว่ามีที่มาจากการนำพริกแห้ง ถั่วเน่า หอมแดง กระเทียม และมะเขือเทศ มาตำรวมกันเพื่อใช้เป็นน้ำพริกสำหรับรับประทานกับข้าวเหนียว หรือนำไปประกอบอาหารอื่นๆ เช่น แกงผัก แกงหอย เป็นต้น

ในอดีต น้ำพริกอ่องเป็นอาหารที่ทำง่าย เก็บไว้ได้นาน จึงนิยมเป็นอาหารที่พกพาสำหรับเดินทางหรือทำเป็นเสบียงอาหารสำหรับไปทำงานในป่า ด้วยความที่น้ำพริกอ่องมีรสชาติเข้มข้น เผ็ดร้อน จึงช่วยเพิ่มความกระปรี้กระเปร่าให้กับผู้รับประทาน

ในปัจจุบัน น้ำพริกอ่องเป็นอาหารพื้นบ้านที่ได้รับความนิยมแพร่หลายไปทั่วประเทศ นิยมรับประทานคู่กับข้าวเหนียวหรือแคบหมู ผักสดต่างๆ เช่น ผักกาดหอม แตงกวา ถั่วฝักยาว

ที่มาของชื่อ “น้ำพริกอ่อง” นั้น สันนิษฐานว่ามาจากการที่น้ำพริกมีลักษณะข้นเหนียวคล้ายกับอ่องหรือเนื้อสัตว์บด นิยมรับประทานกับแคบหมูและผักสดต่างๆ

ดูสูตรอาหาร : น้ำพริกอ่อง

6. แกงฮังเล

อาหารพื้นบ้านภาคเหนือ

แกงฮังเล เป็น อาหารของภาคเหนือ ของประเทศไทย มีต้นกำเนิดจากประเทศพม่า คำว่า “ฮี่น” นั้นในภาษาพม่า หมายถึง แกง ส่วน “เล่” ในภาษาพม่าแปลว่า เนื้อสัตว์ แกงฮังเลได้รับความนิยมจากชาวไทยภาคเหนือ และแคว้นสิบสองปันนา ประเทศจีน

เชื่อกันว่าแกงฮังเลเป็นอาหารที่ได้รับอิทธิพลมาจากพม่าในสมัยโบราณ จากการศึกษาของอุบลรัตน์ พันธุมินทร์ จากแหล่งข้อมูลพุกาม พบว่า แกงที่ชาวพม่าเรียกว่า “ ฮินแล ” หรือ “ ฮังแล ” นั้น มีลักษณะคล้ายกับแกงฮังเลของไทยในปัจจุบัน

ในอดีต แกงฮังเลเป็นอาหารที่ทำยากและใช้เวลานาน จึงนิยมเป็นอาหารสำหรับงานบุญหรืองานมงคลต่างๆ ด้วยความที่แกงฮังเลมีรสชาติเข้มข้น เผ็ดร้อน จึงถือเป็นอาหารมงคลที่ช่วยเสริมสิริมงคลให้กับผู้รับประทาน

ในปัจจุบัน แกงฮังเลเป็นอาหารพื้นบ้านที่ได้รับความนิยมแพร่หลายไปทั่วประเทศ นิยมรับประทานคู่กับข้าวเหนียวหรือข้าวสวย

ดูสูตรอาหาร : แกงฮังเล

7. ขนมจีนน้ำเงี้ยว

อาหารพื้นบ้านภาคเหนือ

ขนมจีนน้ำเงี้ยว เป็น อาหารพื้นเมืองภาคเหนือ ของประเทศไทย เชื่อกันว่ามีต้นกำเนิดมาจากชาวไทใหญ่ที่อพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานในภาคเหนือของประเทศไทยในสมัยโบราณ โดยคำว่า “ขนมจีน” นั้น สันนิษฐานว่ามาจากคำว่า “ขนมเส้น” ในภาษาไทใหญ่ ส่วนคำว่า “น้ำเงี้ยว” นั้น สันนิษฐานว่ามาจากคำว่า “น้ำแกงเงี้ยว” ในภาษาไทใหญ่ ซึ่งหมายถึงน้ำแกงที่ทำจากพริกแห้ง ถั่วเน่า มะเขือเทศ และเครื่องเทศ

ในอดีต ขนมจีนน้ำเงี้ยวเป็นอาหารที่ทำง่าย เก็บไว้ได้นาน จึงนิยมเป็นอาหารที่พกพาสำหรับเดินทางหรือทำเป็นเสบียงอาหารสำหรับไปทำงานในป่า ด้วยความที่ขนมจีนน้ำเงี้ยวมีรสชาติเข้มข้น เผ็ดร้อน จึงช่วยเพิ่มความกระปรี้กระเปร่าให้กับผู้รับประทาน

ในปัจจุบัน ขนมจีนน้ำเงี้ยวเป็นอาหารพื้นบ้านที่ได้รับความนิยมแพร่หลายไปทั่วประเทศ นิยมรับประทานเป็นอาหารกลางวันหรืออาหารเย็น

ดูสูตรอาหาร : ขนมจีนน้ำเงี้ยว

8. น้ำพริกหนุ่ม

อาหารพื้นบ้านภาคเหนือ

น้ำพริกหนุ่ม เป็นอีก เมนูอาหารพื้นบ้าน ของภาคเหนือของประเทศไทย มีลักษณะเป็นน้ำพริกที่มีส่วนผสมหลักคือ พริกหนุ่ม หอมแดง และกระเทียม นำมาตำรวมกัน รับประทานกับแคบหมู ผักสดต่างๆ เช่น ผักกาดหอม แตงกวา ถั่วฝักยาว

ประวัติที่มาของน้ำพริกหนุ่ม สันนิษฐานว่าเกิดขึ้นตั้งแต่สมัยโบราณ โดยคาดว่ามีที่มาจากการนำพริกหนุ่มมาตำรวมกับหอมแดงและกระเทียม เพื่อใช้เป็นน้ำพริกสำหรับรับประทานกับข้าวเหนียวหรือนำไปประกอบอาหารอื่นๆ เช่น แกงผัก แกงหอย เป็นต้น

ในอดีต น้ำพริกหนุ่มเป็นอาหารที่ทำง่าย เก็บไว้ได้นาน จึงนิยมเป็นอาหารที่พกพาสำหรับเดินทางหรือทำเป็นเสบียงอาหารสำหรับไปทำงานในป่า ด้วยความที่น้ำพริกหนุ่มมีรสชาติเข้มข้น เผ็ดร้อน จึงช่วยเพิ่มความกระปรี้กระเปร่าให้กับผู้รับประทาน

ในปัจจุบัน น้ำพริกหนุ่มเป็นอาหารพื้นบ้านที่ได้รับความนิยมแพร่หลายไปทั่วประเทศ นิยมรับประทานคู่กับข้าวเหนียวหรือแคบหมู ผักสดต่างๆ

ที่มาของชื่อ “น้ำพริกหนุ่ม” นั้น สันนิษฐานว่ามาจากการที่น้ำพริกทำจากพริกหนุ่ม ซึ่งเป็นพริกที่ยังไม่แก่จัด มีรสชาติเผ็ดร้อนและหอม

ดูสูตรอาหาร : น้ำพริกหนุ่ม

9. แกงกระด้าง

อาหารพื้นบ้านภาคเหนือ

แกงกระด้าง เป็น อาหารล้านนา หรืออาหารพื้นบ้านของภาคเหนือของประเทศไทย มีลักษณะเป็นอาหารประเภทแกงที่มีส่วนผสมหลักคือ ขาหมู กระดูกหมู เอ็นหมู หรือเนื้อหมูส่วนอื่นๆ นำมาต้มจนเปื่อยยุ่ยจนน้ำแกงจับตัวเป็นวุ้น รับประทานกับข้าวเหนียว

ประวัติที่มาของแกงกระด้าง สันนิษฐานว่าเกิดขึ้นตั้งแต่สมัยโบราณ โดยคาดว่ามีที่มาจากการนำขาหมูหรือเนื้อหมูส่วนอื่นๆ ที่เหลือจากการประกอบอาหารมาต้มจนเปื่อยยุ่ยจนน้ำแกงจับตัวเป็นวุ้น รับประทานเพื่อประหยัดอาหาร

ในอดีต แกงกระด้างเป็นอาหารที่ทำง่าย เก็บไว้ได้นาน จึงนิยมเป็นอาหารที่พกพาสำหรับเดินทางหรือทำเป็นเสบียงอาหารสำหรับไปทำงานในป่า ด้วยความที่แกงกระด้างมีรสชาติเข้มข้น เผ็ดร้อน จึงช่วยเพิ่มความกระปรี้กระเปร่าให้กับผู้รับประทาน

ในปัจจุบัน แกงกระด้างเป็นอาหารพื้นบ้านที่ได้รับความนิยมแพร่หลายไปทั่วประเทศ นิยมรับประทานคู่กับข้าวเหนียว

ที่มาของชื่อ “แกงกระด้าง” นั้น สันนิษฐานว่ามาจากการที่น้ำแกงจับตัวเป็นวุ้น มีลักษณะแข็งหรือกระด้าง

ดูสูตรอาหาร : แกงกระด้าง

10. แกงอ่อมหมู

อาหารพื้นบ้านภาคเหนือ

แกงอ่อมหมู เป็นอาหารพื้นบ้านของภาคเหนือและภาคอีสานของประเทศไทย มีลักษณะเป็นอาหารประเภทแกงที่มีส่วนผสมหลักคือ เนื้อหมู เครื่องแกง และผักต่างๆ นำมาตุ๋นจนเปื่อยยุ่ย รับประทานกับข้าวเหนียว

ประวัติที่มาของแกง่อมหมู สันนิษฐานว่าเกิดขึ้นตั้งแต่สมัยโบราณ โดยคาดว่ามีที่มาจากการนำเนื้อสัตว์มาตุ๋นกับเครื่องแกงและผักต่างๆ เพื่อให้ได้อาหารที่มีรสชาติเข้มข้นและมีประโยชน์

ในอดีต แกงอ่อมหมูเป็นอาหารที่ทำง่าย เก็บไว้ได้นาน จึงนิยมเป็นอาหารที่พกพาสำหรับเดินทางหรือทำเป็นเสบียงอาหารสำหรับไปทำงานในป่า

ในปัจจุบัน แกงอ่อมหมูเป็น แกงภาคเหนือ ที่ได้รับความนิยมแพร่หลายไปทั่วประเทศ นิยมรับประทานคู่กับข้าวเหนียว

ที่มาของชื่อ “แกงอ่อมหมู” นั้น สันนิษฐานว่ามาจากการที่แกงมีลักษณะข้นเหนียวคล้ายกับน้ำอ่อม ซึ่งเป็นน้ำที่ไหลออกมาจากเนื้อสัตว์เมื่อนำมาตุ๋น

ดูสูตรอาหาร : แกงอ่อมหมู

ติดตามข่าวสาร : localfoodthai.com

อ่านบทความเพิ่มเติม :